สิ่งที่เราเรียกกันทั่วไปว่า "ยางธรรมชาติ" คือลาเท็กซ์แข็งที่เก็บรวบรวมมาจากต้นยางพารา จากนั้นนำมาทำให้ตกตะกอนแห้ง และผ่านกระบวนการอื่น ๆ อีกหลายขั้นตอน
ยางธรรมชาติเป็นหนึ่งในประเภทของโพลีไอโซพรีน (Polyisoprene) ซึ่งมีองค์ประกอบหลักเป็นโพลิเมอร์ตามธรรมชาติ มีสูตรโมเลกุลคือ n(C5H8) โดยมีสารยางไฮโดรคาร์บอน (Polyisoprene) มากกว่า 90% และยังมีโปรตีน กรดไขมัน น้ำตาล และแร่ธาตุเล็กน้อยเป็นองค์ประกอบร่วมด้วย
คุณสมบัติทางกายภาพของยางธรรมชาติ ยางธรรมชาติมีความยืดหยุ่นสูงที่อุณหภูมิปกติ มีความเป็นพลาสติก ทนแรงกระทำได้ดี มีการสูญเสียพลังงานจากการเปลี่ยนรูปแบบไม่มากนัก เกิดความร้อนน้อยเมื่อถูกบิดงอ ดังนั้นจึงมีความต้านทานต่อการบิดงอได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้เนื่องจากเป็นยางชนิด Non-polar จึงมีคุณสมบัติในการเป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี
ยาง ร่วมกับพลาสติกและเส้นใย จัดเป็นสามวัสดุสังเคราะห์หลัก เป็นวัสดุโพลิเมอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูงและมีคุณสมบัติยืดหยุ่นยอดเยี่ยมเพียงชนิดเดียว
คุณสมบัติเด่นประการหนึ่งของยางคือ ค่ามอดุลัสยืดหยุ่น (Modulus of Elasticity) มีค่าต่ำมาก และสามารถยืดตัวได้ยาวมาก
ประการที่สอง มีความสามารถในการระบายอากาศได้ดีเยี่ยม และมีความต้านทานต่อสารเคมีและฉนวนไฟฟ้าหลากหลายชนิด นอกจากนี้ยางสังเคราะห์พิเศษบางชนิดยังมีคุณสมบัติต้านทานน้ำมันและทนอุณหภูมิได้ดี มีความต้านทานต่อการบวมจากน้ำมันไขมัน น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันไฮดรอลิก น้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันตัวทำละลาย อุณหภูมิที่เย็นสามารถทนได้ต่ำถึง -60 องศาเซลเซียส ถึง 80 องศาเซลเซียส และทนความร้อนได้สูงถึง +180 องศาเซลเซียส ถึง +350 องศาเซลเซียส ยางยังมีความต้านทานต่อการเกิดการบิดงอและการเปลี่ยนรูปหลายประเภท เนื่องจากมีการสูญเสียพลังงานจากการเหนี่ยวนำต่ำ
คุณสมบัติข้อที่สามของยางคือสามารถใช้งานร่วมกับวัสดุหลายชนิดได้ รวมถึงการผสมและปรับสูตรเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้คุณสมบัติโดยรวมที่ดี
2025-06-16
2025-06-25